จงเตรียมตนให้พร้อมรบอยู่เสมอ

If you want peace, prepare for war. 

–– Vegetius

ในโลกแห่งความบ้าคลั่งที่ผู้คนต่างสาดใส่ความเกลียดชังให้กันโดยไม่สนข้อเท็จจริงนั้น การอยู่แบบลอยชายไปวัน ๆ โดยไม่สนใจสะเก็ดไฟแห่งความขัดแย้งจะนำไปสู่ความพินาศและล่มสลายในที่สุด

ยุทธศาสตร์สงคราม “ชัยชนะโดยมิต้องรบ” หาใช่การหลับหูหลับตาไม่สนใจความขัดแย้งเลย เพราะสักวันหนึ่งคนใจทรามย่อมหาเรื่องลิดรอนสิทธิและชีวิตของท่านให้ได้ในไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือการวางสถานะตนให้อยู่ในตำแหน่งที่ผู้อื่นไม่อาจเอาชนะได้ต่างหาก

หนึ่งในกลยุทธ์นั้นก็คือการตระเตรียมตนเองให้พร้อมรบอยู่เสมอ ความอ่อนแอและล่มสลายของอารยธรรมหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้คนเคยชินกับความสันติจนละเลยการเตรียมพร้อมที่ดี พวกเขาหลงระเริงอยู่ในความหรูหราสุขสบาย ถูกดึงดูดและยั่วยวนด้วยกิเลสตัณหาจนขาดความเข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจและสติปัญญา

เมื่อชนวนแห่งความขัดแย้งได้ถูกจุดแล้ว ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็ไม่มีวันดับมอดลง สงครามและการเข่นฆ่าไม่ได้เกิดชึ้นในวันเดียว มันค่อย ๆ สะสมจากแนวคิดแห่งความเกลียดชัง การใส่ร้าย การปะทะเล็ก ๆ น้อย ๆ สุดท้ายมันจะลุกลามจนกลายเป็นสงครามในที่สุด

การมองโลกเช่นนี้อาจเป็นการมองโลกในแง่ร้ายสักหน่อย แต่เราจะไว้วางใจและศรัทธาในตัวคนที่โฉดเขลาได้จริงหรือ? คนที่ฟังข่าวโดยปราศจากการตรึกครอง คนที่ในใจเต็มไปด้วยอคติและความเกลียดชัง คนที่พร้อมโหมกระพือความเท็จโดยไม่ละอายต่อระดับศีลธรรมที่เหือดแห้งของตน

จงเตรียมพร้อมเถิด อย่าใช้ชีวิตที่หาสาระแก่นสารไม่ได้อีกต่อไป จงตื่นขึ้นมาขัดเกลาจิตใจ ลับคมสติปัญญา และฝึกฝนร่างกายของตนให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่เสมอ 

ประชาชาติของเราในวันนี้ขาดแคลนคนเข้มแข็ง ถวิลหาคนกล้าหาญ จงปัดฝุ่นที่เกาะกุมจิตวิญญานของท่านเสียเถิด เกียรติยศ เลือดเนื้อและสันติภาพของท่านนั้น ไม่อาจให้ใครมาปกป้องได้ นอกจากตัวของท่านเอง